เมื่อผิดหวัง..

 

 

ครั้งวัยเยาว์เราอาจลืมความผิดหวังได้ง่าย เพราะมีโอกาสอีกมากมายให้เริ่มใหม่

ประโยคข้างบนเป็นข้ออ้างของผู้ใหญ่ ผู้ทอดอาลัยในความผิดหวังของตนเอง

 

ครั้งวัยเยาว์เมื่อเราผิดหวัง ก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะถล่มทลาย

“แต่มันก็ไม่ถล่มหรอกนะ…”

ผู้ใหญ่คนเดิมปลอบ

 

ความผิดหวังเดินทางมาเยือนเราอยู่เสมอ บางครั้งทิ้งช่วงห่างนานนานที แต่บางทีมาถี่ๆ เหมือนจะคิดถึงเรามาก

 

เวลาความผิดหวังเคาะประตูเด็กๆ ก็สะดุ้งเฮือก

แต่ใช่ว่าผู้ใหญ่ทุกคนจะสามารถเดินไปเปิดประตูได้อย่างสง่าผ่าเผย

 

แล้วผู้ใหญ่คนเดิมก็พูดอีกครั้ง

“โลกยังไม่ถล่มหรอกนะ…”

“แล้วจะให้ัฉันทำยังไง!”

เด็กตะโกนออกไปเพราะหมดความอดทน (แต่ไม่เป็นไรหรอก เด็กไม่ควรต้องฝืนทนอะไรมากเกินไป)

 

ผู้ใหญ่ได้แต่เงียบแล้วจากไป

เพราะความผิดหวังกำลังยืนรออยู่ที่หน้าประตู

 

 

 

 

ก๊อก

ก๊อก

 

 

 

 

แด่น้องชาย ในความผิดหวังลูกใหญ่ก้อนแรกๆ ของชีวิต

 

เป็นเรื่องง่าย

 

 

เป็นเรื่องง่ายมากที่จะมีเมตตาอาทรต่อผู้อื่น

ผู้ยังเยาว์วัย เบิกบานดังหญิงสาว หรือร้าวรานอย่างผู้ชรา

เป็นเรื่องง่ายมากที่จะใจเย็นแล้วมอบคำอธิบาย

แก่เด็กทึ่มผู้จ้องเราตาแป๋วไม่ละสายตา

เป็นเรื่องง่ายอีกเช่นกัน

ที่จะหลงคิดไปว่าเราเอง

ก็เป็นคนดีเหมือนกัน

 

ทว่า

เป็นเรื่องขึ้นมาทันทีเมื่อสายตาอันกรุณาปรานีของฉันนั้นเคืองขุ่น

เป็นอัตตาที่แท้อันเปี่ยมล้น

ไหนใครกันที่นึกว่าตนเป็นคนดี?

 

เป็นเรื่องง่ายที่จะแบ่งฝักฝ่ายแล้วแปะป้ายให้ศัตรู

เป็นเรื่องง่ายที่จะละสายตาจากตนเองยามฉุนเฉียว

ง่ายพอๆ กันกับการลบเขาทิ้งไปมิให้เหลือสักส่วนเสี้ยว

 

เป็นเรื่องง่ายที่จะเมินหน้าหนีจากสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจ

เป็นเรื่องง่ายที่จะลืมๆ มันไป

ง่ายพอกันกับคราวจดจำมัน

เป็นเรื่องสิ้นเปลืองอารมณ์

ไหนใครกันที่บอกว่ากล้าสบตาตนเอง?

 

 

 

เป็นเรื่องง่ายที่จะใคร่ครวญยามพายุบ้าพัดผ่านไป

เป็นเรื่องง่ายที่จะตระหนักถึงความสำคัญ

ในเมตตาและรักอีกสักครั้ง

เป็นเรื่องง่ายที่จะปลอบใจตน

ว่าทั้งหมดนั้นไม่จีรัง

 

เป็นเรื่องธรรมดา

ของมนุษย์สันดานหนา

ที่ต้องขัดเกลาตนเองทุกวัน

 

 

เขียนใน verse

แด่กวีหนุ่ม

 

 

 

 

เริ่มต้นที่ผมชอบเขียนบทกวี

เขียนดีไม่ดีผมรู้แค่ว่าชอบลากไล้ดินสอบนกระดาษเปื่อย

กระดาษแผ่นที่ชุ่มน้ำตา

 

เขาเดินเข้ามาบอกว่า

ผมเขียนดี

 

เขาสัญญาจะเอาไปพิมพ์ลงกระดาษ

“สักห้าหมื่นเล่มเป็นไง”

ผมจะทำอะไรได้นอกจากพยักหน้า

 

ยังคงลากไล้ดินสอต่อไป

บนกระดาษแผ่นที่ชุ่ม

น้ำลาย

แห่งความกระหาย

 

“ตอนนี้ แววตาของนายยิ่งดูน่าสนใจ”

เขาส่งท้ายก่อนจากลา

ปล่อยให้ผมสังวาสกับดินสอต่อ

ไม่รบกวน

 

แล้วเขาก็หายหน้าไป

 

แล้วเขาก็หายตัวไป

 

แล้วเขาก็หายหัวไป!

 

เริ่มต้นที่ผมชอบเขียนบทกวีแท้ๆ

เขียนดีไม่ดีรู้แค่ว่าชอบลากไล้ดินสอบนกระดาษเปื่อย

กระดาษแผ่นที่ชุ่มน้ำตา(และน้ำลาย)

 

เขาไม่มีความหมายอะไร

เพียงคราบน้ำลายกระหายอยากของผมเอง

 

 

 

 

เขียนใน verse

นักวาดแมว

 

นักวาดแมว วาดแมวเป็นร้อยเป็นพันตัว

แต่ละตัว ล้วนเป็นแมวพิการ

ขาบิด หางกุด หูแหว่งบ้าง

แต่นานๆ ที ก็จะมีแมวสวยงาม

 

นักวาดแมว วาดแมวเพียงอย่างเดียว

บ้างร้องเหมียว บ้างร้องหง่าว บ้างไม่ร้อง

แมวที่วาดไม่ได้ร้องขอข้าวน้ำ

แมวที่วาดไม่จำเป็นต้องกินข้าว

แมวกระดาษ ร้องเพราะไม่รู้จะทำอะไรอย่างอื่น

นอกจากร้อง

 

เคยมีตัวหนึ่ง, นานมาแล้ว ฝนเล็บ

กระดาษขาด

แมวตัวนั้น ก็ตายไป

 

 

เขียนใน verse

080211 – ไปฟังเพลง

นักดนตรีกำลังกระซิบกระซาบกับกีตาร์ของเขาบนเวที

พูดคุยกันสองคนอย่างคู่รักในร้านกาแฟ

ที่รู้สึกเหมือนโลกมีแค่เราเพียงสองคน

ผู้ชมกำลังกระซิบกระซาบกันเบาเบา

พูดคุยกันสองคนอย่างที่คนสองคนพึงกระทำ

และบางทีก็หลับตาแล้วแอบฟังนักดนตรีกับกีตาร์พลอดรักกัน

วลีสับสนจากการอ่านข่าวสารเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร

 

เส้นตรงเพียงบางๆ ในแผนที่ทางอากาศ
ขีดแบ่งพรมแดน
แยกฝั่ง ระหว่าง ที่ว่าง
เส้นตรงเหล่านี้เป็นฝีมือของใครมาขีดไว้
อาจไม่สำคัญ
เท่าเส้นแบ่งขาวดำ
ที่ตัดกันรุนแรง

มีอะไรซุกอยู่ข้างใต้บ้าง
“ทอนปัญหาให้เหลือเพียงมิติง่ายๆ สิ เราจึงจะแก้ไขมันได้” นักปฏิบัติกล่าว
“มองภาพรวมและทำความเข้าใจกับความซับซ้อนวุ่นวายทั้งหลายเสียก่อนสิ เราถึงจะเจอทางไปต่อ” นักคิดแย้งย้อน

มีอะไรซุกอยู่ข้างใต้
มากมาย
ในทุกทุกเรื่อง
และเราก็ยินยอมแสดงตนเป็นผู้ไร้เดียงสาอันปราดเปรื่อง
เมื่อมันอยู่ข้างใต้.. มันจึงไม่มี

เอกสารในกระดาษนั้นไม่มีชีวิตไม่มีจิตใจ
ความนิยมชาตินั้นเขลาเกินกว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร
โบราณสถานเป็นมรดกของโลกหรือมรดกใคร
กระสุนปืนใหญ่พอตกลงมาบนดินมันก็มีหลุม
คนที่ยืนอยู่ตรงหลุม ลำตัวก็เป็นรู..

คลื่นไส้ อาเจียน เวียนกบาล
เหล่านี้คืออาการยามเสพข่าวสารแล้วค้นหาความจริง
เราต่างโดนยาพิษที่บรรจงวางไว้ในยาขมย่อยยาก
เขาอยากให้เราดูละครแล้วหัวเราะปรบมือไปวันๆ อย่างสำราญใจ
หรือบางทีเขาก็เบนความสนใจเรา
หรือบางทีปัญหาต่างๆ มันก็รุมเร้าจนเราหมดเรี่ยวหมดแรงไปเอง

ว่าแต่เขาคือใคร?

ธงชาติปลิวไสวในสายลมร้อนเป็นภาพที่สวยงาม
แต่ที่จับใจที่สุดคือภาพของธงชาติต่างๆ
โบกสะบัดในสนามกีฬา